ลุงตู่ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกทีวีประกาศวาระ ” เปิดประเทศ ” เป็นที่ชัดเจนว่าในวันที่ 1 พ.ย.2564 ประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศ เข้ามายังประเทศไทยแบบไม่ต้องกักตัว จะคิกออฟรับนักท่องเที่ยวจาก 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำ อาทิ จีน สหรัฐฯ สิงคโปร์ หรือ เยอรมนี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน และ เปิดสถานบันเทิง ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564
ควันหลงจากประกาศนี้ ได้ก่อให้เกิดดรามาตามมาทั่วทุกสารทิศ เห็นไดัจากแฮชแท็ก #ประยุทธ์ และ #เปิดประเทศ เป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงแสดงความเห็นกันในโลกออนไลน์ตลอดทั้งวัน
การตัดสินใจครั้งสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดประเทศ ให้ชาวต่างชาติเริ่มเข้าประเทศไทยได้แบบไม่ต้องกักตัว
คำถามคือ “ประเทศไทย” ในเวลานี้ยังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันระดับหมื่นคน เสียชีวิตนับร้อยคน หากเปิดประเทศแล้วจะมีนักท่องเที่ยวหรือไม่ และจะมีหลักเกณฑ์ใดในการพิจารณาต้อนรับนักท่องเที่ยว
การเปิดประเทศเราจะมีการแบ่งออกเป็นระยะตามหลักเกณฑ์ความพร้อม โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้านหลัก คือ
1. ความพร้อมด้านสถานการณ์ ประกอบด้วย ต้องได้รับวัคซีนครอบคลุม 70% อัตราครองเตียงผู้ป่วยโควิดในระดับเหลือง-แดง, ผู้ติดเชื้อ 5-10 คน/ประชากร 1 แสนคน
2. ความพร้อมด้านการจัดการ คือความพร้อมของภาครัฐและเอกชน โดยมีการเชื่อมโยงกับศูนย์คอมมานด์เซ็นเตอร์ โดยมีการวางแผนไว้เบื้องต้น เช่น วันที่ 1-30 พ.ย. กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ ชะอำ หัวหิน พัทยา หรือ เกาะต่างๆ ในภาคตะวันออก
สรุปแล้ว ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีบางส่วนที่สร้างคำถามและสวนทางกับสิ่งที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมาประชาชนจับตาดูการทำงานของรัฐบาลในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 มาตลอด ทั้งการบริหารจัดการวัคซีน การบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ฯลฯ
ซึ่งประเด็นเหล่านั้นก็มักถูกหยิบมาตั้งคำถามถึงการทำงานของรัฐบาล วิธีการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา ไปจนถึงเรื่องของความโปร่งใส อยู่หลายครั้ง ทำให้หลายคนคิดว่า เปิดประเทศ ครั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไร