ศบค. เผยพบ 2 คลัสเตอร์ใหม่ในกทม. เป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เขตทุ่งครุ พบผู้ติดเชื้อ 29 ราย กับสถานดูแลผู้สูงอายุ 3 แห่ง ในเขตบางแค มีผู้ป่วย 23 ราย รวม 2 คลัสเตอร์ใหม่ มีผู้ป่วยรวม 52 ราย พร้อมเรียก 134 บริษัทก่อสร้างประชุมเรื่องการจัดการแคมป์คนงาน
วันที่ 24 พ.ค. 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการ โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศ ประจำวันว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,713 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 103,350 ราย หายป่วยแล้ว 58,674 ราย เสียชีวิตสะสม 712 ราย
ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 132,213 ราย หายป่วยแล้ว 86,100 ราย เสียชีวิตสะสม 806 ราย สำหรับมีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 23 พฤษภาคม 2564 จำนวน 2,910,664 โดส
แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของกทม.มีการเฝ้าระวัง 26 เขต 32 คลัสเตอร์ ในส่วนของ 2 คลัสเตอร์ใหม่ในกทม. ได้แก่ เขตทุ่งครุ เป็นโรงงานรับตัดเย็บผ้า เป็นทาวน์โฮม มียอดผู้ป่วยรายใหม่ 29 คน
ซึ่งได้ติดตามสอบสวนโรค และติดตามการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแล้วตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.แล้ว รวมทั้งสั่งปิดโรรงานแล้ว และวันที่ 26 พ.ค. มีการวางแผนเชิงรุกเข้าตรวจในตลาดบริเวณใกล้เคียง
ส่วนคลัสเตอร์ใหม่อีกแห่ง เป็น สถานดูแลผู้สูงอายุ ในเขตบางแค 3 แห่ง พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 23 ราย ซึ่งได้ทำมาตรการป้องกันโรค มีการตรวจผู้ที่อยู่ในสถานดูแลทุกคน และมีการฉีดวัคซีนผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ห้ามญาติมาเยี่ยม รวมทั้งกักตัวผู้ดูแลไม่ให้ออกไปพื้นที่ข้างนอก
แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า ตรงนี้น่าสนใจ เพราะเป็นสถานดูแลผู้สูงอายุ 3 แห่ง ซึ่งที่ประชุมศบค.วันนี้ ได้มีการพูคคุยเรื่องสถานดูแลผู้สูงอายุ อย่างที่เราย้ำอยู่เสมอว่า ผู้สูงอายุถือว่าเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เมื่อเกิดการติดเชื้อจะทำให้มีอาการหนัก และมีโอกาสเสียชีวิตสูง
ซึ่งจากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่า การเริ่มต้นติดจากผู้ดูแลติด 3 คน และพอมาดูแลผู้สูงอายุก็ทำให้มีการติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งทั้ง 3 แห่งนี้มีติดเชื้อแล้ว 23 คน
“สถานดูแลผู้สูงอายุ เราเน้นย้ำมาตลอด ตั้งแต่ปีที่แล้ว เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ ถ้าท่านเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ ขอให้ท่านทบทวนมาตรการอย่างรีบด่วน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด และเสียชีวิตเกิดขึ้น” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวและว่า
ในส่วนของแคมป์คนนงาน ล่าสุดได้เน้นนย้ำผู้ประกอบการที่ดูแลแรงงานเหล่านี้ ซึ่งมีทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว โดยมาตรการก่อนหน้าได้เน้นย้ำให้ไปปรับมาตรการการดูแลไซต์งาน พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ ส่วนกลาง การเดินทาง การเคลื่อนย้ายแรงงาน
โดยในวันนี้สำนักงานโยธาธิการกทม. ได้รายงานต่อที่ประชุม ศบค.ว่า ได้ขอความร่วมมือ 134 บริษัทก่อสร้างที่ขึ้นทะเบียนไว้ ส่งเอกสารเพื่อที่จะเรียกมาหารือร่วมกัน โดยเน้นย้ำการจัดการถึงที่พักอาศัย ที่ทำงาน การเคลื่อนย้ายแรงงาน
“ถ้าเห็นว่าแคมป์ไหนมีการจัดการที่ยังไม่ถูกต้อง สำนักงานเขตมีอำนาจสั่งปิดได้” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว
