Moncler แบรนด์เสื้อกันหนาวและเสื้อผ้าสกีแห่งยุคได้ออกคอลเล็กชันเสื้อแจ็กเก็ตที่ทำมาจากวัสดุแบบยั่งยืนทั้งหมด เพื่อเป็นไปตามแผนสู่ความยั่งยืนของแบรนด์ที่มีชื่อว่า Moncler Born to Protect
โดยคอลเล็กชันนี้ ทางแบรนด์จะนำวัสดุรีไซเคิลและการเสาะหาวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบต้นตอได้มาทำเป็นแจ็กเก็ตและเสื้อโค้ตสำหรับทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ในสีดำทั้งหมดทุกตัว เริ่มที่วัสดุผ้าและชิ้นส่วนประดับของแจ็กเก็ต ทั้งซิปและกระดุมทำมาจาก Econyl หรือไนลอนที่ทำมาจากขยะพลาสติกในทะเลและจากขยะบนพื้นดินผ่านกระบวนการรีไซเคิล เช่นเดียวกับกระดาษห่อสินค้าจะทำมาจากต้นไม้ในพื้นที่ที่ได้รับความคุมครองในการผลิตอย่างโปรงใส และถุงช้อปปิ้งก็ทำมาจากกระดาษรีไซเคิลเช่นกัน
ส่วนขนเป็ดที่ใช้ในนวมเสื้อกันหนาวได้การรับรอง DIST หรือ Down Integrity System and Traceability ที่รับรองว่าขนเป็ดจะต้องมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน การันตีสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี และเป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงเป็นอาหารเท่านั้น ซึ่งใช้น้ำในการผลิตน้อยว่าขนเป็ดรีไซเคิลแบบธรรมดาถึง 70% ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้กระบวนการผลิตคอลเล็กชันนี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงประมาณ 40%
สำหรับแผน Moncler Born to Protect ที่แบรนด์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการรับผิดชอบสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ และสังคม ประกอบไปด้วย 5 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ การต่อสู้เรื่องสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ผสมผสานการทำธุรกิจแบบหมุนเวียน สนับสนุนซัพพลายเชนที่มีความรับผิดชอบ ปลูกฝังเรื่องความหลากหลาย และให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปสังคมและเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาธุรกิจชุมชน จนถึงขณะนี้ทางแบรนด์ได้ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในฐานการผลิตที่ประเทศอิตาลี และจะเดินหน้าทำให้ได้ 100% ทั่วโลกในปี 2023
Moncler ถือเป็นแบรนด์เสื้อกันหนาวที่ก้าวกระโดดมาเป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการร่วมมือกับดีไซเนอร์และแบรนด์ชั้นนำออกคอลเล็กชันแยก Moncler Genius ที่จะมีดีไซเนอร์หมุนเวียนมาออกแบบให้ไม่ว่าจะเป็น Valentino, Richard Quinn, JW Anderson และ Craig Green
ข้อมูลจาก : TheStandard
