วิธีใช้ ชุดตรวจโควิด ” Antigen Test Kit ” หรือ ” Rapid Antigen test ” ที่ให้ผลทางวิทยาศาสตร์แม่นยำประมาณ 90% จะมีขายในร้านขายยาสัปดาห์หน้า
สำหรับ Rapid Antigen Test เป็นการตรวจหาองค์ประกอบของไวรัส ซึ่งในประเทศไทยตอนนี้มีขึ้นทะเบียนอยู่ 24 ยี่ห้อ ถูกกำหนดให้ใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ และดำเนินการโดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองในการตรวจ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 300 แห่งเท่านั้น โดยทั้ง 24 ยี่ห้อนั้นก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการเก็บตัวอย่างที่ใช้ตรวจ เทคนิคการตรวจหาโปรตีนของไวรัส และการทำลายเชื้อของสารทำละลายที่ใช้ในการตรวจ ในทางวิทยาศาสตร์ให้ผลที่แม่นยำประมาณ 90% ทีเดียว
1. แยกตัวเองออกมาจกาผู้อื่น ล้างมือให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ เช็ดมือให้แห้ง
2. โต๊ะหรือบริเวณที่จะใช้ทำการทดสอบ ก็ต้องเช็ดด้วยแอลกอฮอล์เช่นกัน
3. ชุดตรวจ “Antigen Test Kit” มา แล้วดูวันหมดอายุ เป็นอันดับแรก ถ้าหมดอายุแล้ว ห้ามใช้งานเด็ดขาด หากไม่หมดอายุก็ใช้งานได้
4. แกะชุดตรวจ “Antigen Test Kit” ออกมา วางอุปกรณ์ให้พร้อม และแกะซองก้านไม้ Swab ให้แกะที่ปลายด้ามจับเท่านั้น มือจะได้ไม่โดนด้านสำลี (ห้ามจับด้านสำลีที่จะใช้แยงจมูก เพราะจะทำให้ปนเปื้อนได้) จับก้านไม้ไม่เกินขีดที่กำหนดไว้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะระบุไม่เหมือนกัน
5. วิธีการ Swab : ให้แยงไม้ด้านที่เป็นสำลีเข้ารูจมูก ลึกประมาณ 1 นิ้ว หรือ 2.5 เซนติเมตร (ทั้งนี้ แล้วแต่คำแนะนำของชุดตรวจแต่ละยี่ห้อ ให้ยึดคำแนะนำในฉลากเป็นสำคัญ)
6. จากนั้นให้หมุนก้านไม้ในรูจมูกทั้ง 2 ข้างๆ ละไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง หรือนานข้างละ 15 วินาที ย้ำว่าทำทั้งสองข้าง
7. จากนั้นนำปลายสำลีที่ Swab แล้ว มาจุ่มลงในหลอดทดลองที่มีน้ำยาสกัดอยู่ข้างใน หมุนก้านไม้จำนวนมากกว่า 10 ครั้งขึ้นไป พร้อมกับบีบก้นหลอดไปด้วย ให้น้ำยาเคลือบสำลีทั่วถึง (จำนวนครั้งที่หมุน ขึ้นอยู่กับคู่มือแต่ละยี่ห้อ)
เสร็จแล้วดึงก้านไม้ออก ปิดฝาหลอด ที่มีลักษณะเป็นหัวหยอดน้ำยา บางยี่ห้อก็จะให้เปิดตรงก้นหลอดน้ำยา (ขึ้นอยู่กับคู่มือแต่ละยี่ห้อ)
8. จากนั้นหยดน้ำยาลงบนแผ่นทดสอบ ในช่องที่กำหนดไว้ ประมาณ 4 หยด (จำนวนหยด ขึ้นอยู่กับคู่มือแต่ละยี่ห้อ) จากนั้นจับเวลาประมาณ 15-30 นาที ห้ามเกินกว่านั้น ถ้าเวลาเกินกว่านั้นเมื่อไหร่ ถือว่าใช้ไม่ได้ ผิดพลาดทันที ต้องไปซื้อชุดใหม่มาใช้
9. วิธีอ่านผล : ต้องดูที่ตัว C เป็นหลัก แผ่นทดสอบที่ใช้งานได้ปกติ ต้องมีขีดขึ้นที่ตัว C เสมอทุกครั้ง ไม่ว่าผลจะเป็น “บวก” หรือ “ลบ” ก็ตาม หากแผ่นทดสอบไม่มีขีดตรงนี้ ถือว่าชุดตรวจเสีย ไม่สามารถใช้งานได้ ต้องไปซื้อใหม่
- หากขึ้น 2 ขีด (ที่ตัว C และ T) = ผลบวก ติดเชื้อ
- หากขึ้น 1 ขีด (ที่ตัว C) = ผลลบ ไม่ติดเชื้อ
10. วิธีทิ้งชุดตรวจ : เพื่อเป็นการรับผิดชอบสังคม ขยะเหล่านี้ต้องแยกทิ้งเป็นขยะติดเชื้อ ให้หาซื้อถุงพลาสติกสีแดงมาเตรียมไว้ เมื่อใช้ชุดตรวจเสร็จแล้ว ให้รวบรวมทิ้งในถุงสีแดง มัดปากถุงให้มิดชิด ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนนำไปทิ้งถังขยะ
ขณะที่หลังการตรวจ หากพบเป็นบวก ต้องแจ้งกับสถานพยาบาลที่กำหนด เช่น คลินิกชุมชนอบอุ่น, สาธารณสุขของ กทม. หรือคลินิกในเครือข่ายที่มีการกำหนดไว้ เพื่อดำเนินการต่อ จะเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล หรือ Home Isolation
หากผลออกมาเป็นลบ แต่ประเมินเบื้องต้นแล้วเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ควรทดสอบซ้ำอีกครั้งใน 3-5 วัน เนื่องจากอาจอยู่ในระยะฟักตัวของเชื้อ หรือหากปรากฏอาการของโควิด ควรทดสอบซ้ำทันที
ที่มา : หมอแล็บแพนด้า